วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ทุกข์ของชาวนาในบทกวี



ผู้แต่ง                   สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี 
จุดมุ่งหมายในการแต่ง
                      เพื่อแสดงพระราชดำริเกี่ยวกับบทกวีของไทยและบทกวีจีน ซึ่งกล่าวถึงชีวิตและความทุกข์ของชาวนา
ลักษณะคำประพันธ์                                                                     
                     ร้อยแก้ว  ประเภทบทความ


ความเป็นมา
                    
  ทุกข์ของชาวนาในบทกวี  มีที่มาจากหนังสือรวมบทพระราชนิพนธ์ในสมเด็จพระเทพ-รัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี  เรื่อง  มณีพลอยร้อยแสง ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ให้จัดพิมพ์ขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2533  ในวโรกาสที่พระองค์ทรงเจริญพระชนมายุครบ 3 รอบ  โดยนิสิตคณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย  รุ่นที่ 41  พระราชนิพนธ์นั้นแสดงให้เห็นแนวพระราชดำริเกี่ยวกับบทกวีของไทยและจีนที่กล่าวถึงชีวิตและความทุกข์ของชาวนาซึ่งมีสภาพชีวิตที่ไม่แตกต่างกันนัก

เรื่องย่อ
                เนื้อความในตอนแรกของบทความเรื่อง ทุกข์ของชาวนาในบทกวีสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ- สยามบรมราชกุมารีได้ทรงยกบทกวีของจิตร  ภูมิศักดิ์ ซึ่งได้กล่าวถึงชีวิตและความทุกข์ยากของชาวนา
                ต่อมาทรงแปลบทกวีจีนของหลี่เชินเป็นภาษาไทยทำให้มองเห็นภาพของชาวนาจีน                                  เมื่อเปรียบเทียบกับชาวนาไทยว่า
 มิได้มีความแตกต่างกัน แม้ในฤดูกาลเพาะปลูก ภูมิอากาศจะเอื้ออำนวยให้พืชพันธุ์ธัญญาหารบริบูรณ์ดี  แต่ผลผลิตไม่ได้ตกเป็นของผู้ผลิต คือ  ชาวนาเท่าที่ควร  ส่วนที่สำคัญที่สุดคือ  ทรงชี้ให้เห็นว่าแม้จิตร  ภูมิศักดิ์ และหลี่เชินจะมีกลวิธีการนำเสนอบทกวีที่แตกต่างกัน แต่ทั้งสองท่าน มีแนวความคิดที่คล้ายกัน คือมุ่งที่จะกล่าวถึงความทุกข์ยากของชาวนาและทำให้เห็นว่าชาวนาในทุกแห่งและทุกยุคทุกสมัยล้วนประสบแต่ความทุกข์ยากไม่แตกต่างกันเลย 
ข้อคิดที่ได้รับ                     
                      1. ทำให้เข้าใจความรู้สึกของชาวนาที่ต้องประสบปัญหาต่างๆ
                      2. ทำให้ได้รู้ถึงความทุกข์ยากความลำบากของชาวนาในการปลูกข้าว
                      3. ทำให้ได้เห็นถึงคุณค่าของข้าวที่ได้รับประทานเป็นอาหารหลักในการดำรงชีวิตอยู่ของมนุษย์

ความซื่อสัตย์

 ความซื่อสัตย์   เป็นลักษณะที่ช่วยให้เป็นที่ยอมรับนับถือและไว้วางใจ  เป็นที่น่าคบหาสมาคมด้วย  ถ้าขาดความซื่อสัตย์จะเป็นคนไม่น่าคบหาสมาคม   เป็นที่ระแวงแคลงใจของเพื่อนและบุคคลใกล้ชิด   โดยปกติแล้วผู้ปฏิบัติตนด้วยความซื่อสัตย์จะมีความเจริญก้าวหน้าทั้งด้านส่วนตัวการประกอบอาชีพ   การสังคม  ความซื่อสัตย์   หมายถึง   การประพฤติตรงและจริงใจ   ไม่คิดคดทรยศ   ไม่โกง   ไม่หลอกลวง

พฤติกรรมที่แสดงว่ามีความซื่อสัตย์  มีดังนี้
         1.ตรงต่อเวลา   นัดหมายแล้วมาตามนัดและตรงเวลา   มาโรงเรียนตรงเวลาไม่มาสาย
         2.ไม่พูดปด   พูดความจริงเสมอ
         3.ไม่หน้าไหว้หลังหลอก   ต่อหน้าทำอย่างหนึ่งและลับหลังทำอีกอย่างหนึ่ง
         4 ยอมรับผิดเมื่อทำผิด  ไม่ใส่ร้ายความผิดให้กับผู้อื่น
          5.จ่ายเงินทุกครั้งเมื่อซื้อสิ่งของ   ขึ้นรถประจำทางหรือโดยสารยานพาหนะอื่นๆหรือใช้บริการอื่นๆที่ต้องเสียเงินค่าบริการ
         6. ไม่หยิบฉวยสิ่งของของผู้อื่นมาเป็นของตนจะใช้สิ่งของผู้อื่นต้องขออนุญาตก่อน
        7.ไม่ลอกการบ้านเพื่อน  ไม่แอบอ้างผลงานเพื่อนเป็นผลงานตัวเอง  ไม่ลอกคำตอบเพื่อน